ในช่วงฤดูหนาวของยุโรปตอนเหนือ โดยเฉพาะในประเทศ นอร์เวย์ เมื่อหิมะเริ่มตกและบรรยากาศแห่งวันคริสต์มาสเริ่มต้นขึ้น หนึ่งในอาหารที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำเทศกาลคือ Pinnekjøtt (พินเนอเคิท) หรือซี่โครงแกะรมควันและเค็มที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว จานนี้ไม่ได้เป็นเพียงอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของประเพณี ความทรงจำในครอบครัว และความอบอุ่นท่ามกลางอากาศหนาวเย็น
Pinnekjøtt เป็นอาหารที่มีอายุมากกว่าหลายร้อยปีในนอร์เวย์ และได้รับความนิยมอย่างมากในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในแถบตะวันตก เช่น เบอร์เกน (Bergen) และฟยอร์ดตอนเหนือ ซึ่งการเลี้ยงแกะและการถนอมอาหารด้วยเกลือและการรมควันเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมที่สืบทอดกันมา
ต้นกำเนิดของ Pinnekjøtt

คำว่า “Pinnekjøtt” แปลตรงตัวว่า “เนื้อบนไม้” มาจากวิธีการปรุงแบบดั้งเดิมที่นำซี่โครงแกะไปวางบนไม้เรียวยาวก่อนนึ่งให้สุก ซึ่งไม้ที่ใช้ในอดีตมักเป็นไม้เบิร์ช (birch sticks) ที่หอมกลิ่นควันธรรมชาติ ส่วนชื่อของเมนูนี้จึงสะท้อนทั้งวิธีการปรุงและวัตถุดิบหลักได้อย่างชัดเจน
ในอดีต การรมควันและการหมักเกลือเป็นวิธีหลักในการถนอมอาหารในช่วงฤดูหนาวของชาวนอร์เวย์ เนื่องจากอากาศหนาวจัดและไม่มีตู้เย็นเหมือนปัจจุบัน การหมักเกลือช่วยป้องกันเนื้อเสีย และการรมควันช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์
อาหารชนิดนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความพร้อมสำหรับฤดูหนาว และกลายเป็นเมนูสำคัญในวันคริสต์มาส ที่ทุกบ้านจะเตรียมไว้ล่วงหน้าอย่างพิถีพิถัน
ลักษณะและรสชาติของ Pinnekjøtt
Pinnekjøtt มีลักษณะเป็นซี่โครงแกะที่ผ่านการหมักเกลือและรมควัน จากนั้นนำมานึ่งจนเนื้อนุ่มหลุดจากกระดูก รสชาติของมันจะเข้มข้น เค็มเล็กน้อย มีกลิ่นหอมจากควันไม้ และกลิ่นเฉพาะของเนื้อแกะที่ไม่เหมือนใคร
เมื่อกินพร้อมกับมันฝรั่งบด (kålrabistappe) และซอสเข้มข้นแบบนอร์เวย์ จะได้รสชาติที่กลมกล่อม หอม มัน และเค็มในแบบที่ลงตัว เป็นจานที่อบอุ่นหัวใจ เหมาะกับบรรยากาศคริสต์มาสที่เต็มไปด้วยแสงเทียนและเสียงหัวเราะในบ้าน
ส่วนผสมหลักในการทำ Pinnekjøtt
วัตถุดิบสำหรับซี่โครงแกะ:
- ซี่โครงแกะ 1.5 – 2 กิโลกรัม (เลือกส่วนที่มีเนื้อมาก)
- เกลือทะเลหยาบ 300 กรัม
- พริกไทยดำบดเล็กน้อย (ไม่จำเป็น แต่เพิ่มความหอมได้ดี)
- ไม้เบิร์ชหรือซี่ไม้สะอาดสำหรับรองในหม้อนึ่ง
สำหรับเครื่องเคียง:
- มันฝรั่ง 800 กรัม
- หัวผักกาดหัว (Rutabaga หรือ Swede) 1 หัวใหญ่
- เนย 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือและพริกไทยตามชอบ
- ครีมหรือเนยสดเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความมัน
ขั้นตอนการเตรียม Pinnekjøtt แบบดั้งเดิม
- การหมักเกลือ (Curing)
ล้างซี่โครงแกะให้สะอาด แล้วซับให้แห้ง นำมาคลุกกับเกลือทะเลให้ทั่วทุกส่วน วางซ้อนในภาชนะแล้วแช่ตู้เย็นหรือเก็บในที่เย็น 2–3 วัน เพื่อให้เกลือซึมเข้าสู่เนื้อ - การล้างเกลือและการตากแห้ง
หลังจากหมักครบเวลา ล้างเนื้อออกจากเกลือให้สะอาด แล้วนำไปแขวนตากในที่อากาศถ่ายเทดี (หรือในห้องเย็น) ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้เนื้อแห้งและเริ่มมีกลิ่นหอมของเกลือ - การรมควัน (ถ้ามี)
แบบดั้งเดิมจะนำเนื้อไปรมควันด้วยไม้เบิร์ชเป็นเวลา 1–2 วัน เพื่อเพิ่มกลิ่นควันอ่อน ๆ หากไม่มีอุปกรณ์รมควัน สามารถข้ามขั้นตอนนี้ได้ แต่รสชาติจะต่างเล็กน้อย - การแช่น้ำคืน (Soaking)
ก่อนนำไปนึ่ง ให้นำซี่โครงแห้งมาแช่น้ำเย็นประมาณ 20–30 ชั่วโมง เพื่อให้เกลือส่วนเกินละลายออกจากเนื้อ ควรเปลี่ยนน้ำทุก 6–8 ชั่วโมง - การนึ่งด้วยไม้ (Steaming on Sticks)
วางไม้เบิร์ชเรียงไว้ก้นหม้อ เติมน้ำให้ท่วมไม้แต่ไม่ให้ถึงเนื้อ จากนั้นวางซี่โครงแกะซ้อนกันบนไม้ ปิดฝาและนึ่งด้วยไฟอ่อนประมาณ 2–3 ชั่วโมง จนเนื้อนุ่มและมีกลิ่นหอม - การเสิร์ฟ
เสิร์ฟซี่โครงแกะร้อน ๆ คู่กับมันบดหัวผักกาดและมันฝรั่ง ราดด้วยน้ำซุปจากการนึ่งเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความเข้มข้นและความชุ่มฉ่ำของรสชาติ
การทำเครื่องเคียงแบบนอร์เวย์: Kålrabistappe
เครื่องเคียงที่ขาดไม่ได้ของ Pinnekjøtt คือ Kålrabistappe หรือมันบดจากหัวผักกาดหัว (rutabaga mash) ซึ่งมีรสหวานมันเล็กน้อยและช่วยตัดความเค็มของเนื้อแกะได้ดี
วิธีทำง่าย ๆ:
- ปอกเปลือกหัวผักกาดหัวและมันฝรั่ง หั่นเป็นชิ้นเล็ก
- ต้มในน้ำเกลือจนเปื่อยนุ่ม
- เทน้ำออก ใส่เนย ครีม เกลือ และพริกไทย แล้วบดให้ละเอียด
- เสิร์ฟร้อน ๆ คู่กับ Pinnekjøtt จะได้รสชาติที่กลมกล่อมพอดี
เคล็ดลับความอร่อยของ Pinnekjøtt
- ใช้ซี่โครงแกะคุณภาพดี เนื้อไม่แห้งหรือเหนียวเกินไป
- การแช่น้ำหลังหมักเกลือเป็นขั้นตอนสำคัญ เพราะหากข้ามไป เนื้อจะเค็มเกินรับประทาน
- การนึ่งด้วยไม้เบิร์ชหรือไม้ที่ไม่มีกลิ่นฉุน จะช่วยให้เนื้อแกะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากไม้ธรรมชาติ
- เสิร์ฟพร้อมไวน์แดงรสเข้มหรือเบียร์เข้ม จะช่วยขับรสชาติของเนื้อให้เด่นขึ้น
คุณค่าทางโภชนาการของ Pinnekjøtt
Pinnekjøtt เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง เหมาะกับฤดูหนาวที่ร่างกายต้องการความอบอุ่น เนื้อแกะเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดีและมีไขมันชนิดดี (omega-3 fatty acids) ซึ่งมีประโยชน์ต่อหัวใจและระบบประสาท
นอกจากนี้ การเสิร์ฟคู่กับผักบดและมันฝรั่งยังช่วยเพิ่มไฟเบอร์ วิตามินซี และคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายต้องการ เป็นอาหารที่ทั้งอร่อยและมีคุณค่าครบถ้วนในมื้อเดียว
Pinnekjøtt กับวัฒนธรรมคริสต์มาสของนอร์เวย์
ในนอร์เวย์ Pinnekjøtt ถือเป็นอาหารหลักของวันคริสต์มาสอีฟ โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันตกที่ทุกบ้านจะเริ่มเตรียมซี่โครงแกะตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม กลิ่นควันและกลิ่นเค็มของซี่โครงแกะที่แขวนไว้ในห้องครัวเป็นสัญญาณของเทศกาลที่ใกล้เข้ามา
ในค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลอง สมาชิกครอบครัวจะมารวมตัวกันรอบโต๊ะอาหาร เสิร์ฟ Pinnekjøtt พร้อมมันบดหัวผักกาด น้ำซุปอุ่น ๆ และขนมหวานแบบนอร์เวย์ เช่น riskrem (ข้าวในครีมวานิลลา) บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น เรียบง่าย แต่ลึกซึ้งในความหมายของคำว่า “บ้าน”
การดัดแปลง Pinnekjøtt ในยุคปัจจุบัน
แม้ว่า Pinnekjøtt จะเป็นอาหารดั้งเดิม แต่เชฟรุ่นใหม่ได้นำมาประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัย เช่น
- ย่างในเตาอบแทนการนึ่ง เพื่อให้ได้เนื้อกรอบนอกนุ่มใน
- ใช้เนื้อแพะหรือเนื้อวัวแทนแกะ สำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นแรง
- ทำซอสไวน์แดงหรือซอสเบอร์รี่มาช่วยตัดรสเค็ม
- เสิร์ฟในรูปแบบจานสมัยใหม่ แต่ยังคงกลิ่นและรสชาติแบบดั้งเดิม
การผสมผสานเหล่านี้ทำให้ Pinnekjøtt ไม่เพียงเป็นอาหารประจำเทศกาลเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นแรงบันดาลใจในวงการอาหารนอร์ดิกยุคใหม่
สูตร Pinnekjøtt: ซี่โครงแกะรมควันแบบนอร์เวย์สำหรับคริสต์มาส
Pinnekjøtt (อ่านว่า พินเนอ-ช็อต) คือหนึ่งในเมนูที่เป็นหัวใจของเทศกาลคริสต์มาสในนอร์เวย์ อาหารจานนี้เป็นซี่โครงแกะที่ผ่านการหมักและรมควัน ก่อนจะนำไปนึ่งจนเนื้อนุ่มและกลิ่นหอมเฉพาะตัว เป็นอาหารที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาในการถนอมอาหารของชาวนอร์เวย์ยุคโบราณ และยังคงเป็นเมนูที่ครอบครัวชาวนอร์เวย์หลายบ้านต้องมีในมื้อคริสต์มาสทุกปี
แม้จะดูเป็นเมนูที่เรียบง่าย แต่ Pinnekjøtt กลับต้องอาศัยความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกเนื้อแกะ การหมัก การรมควัน ไปจนถึงการปรุงสุกอย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้รสเค็มพอดี เนื้อนุ่ม และกลิ่นหอมที่สมดุลระหว่างไม้รมควันกับกลิ่นธรรมชาติของแกะ
บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้เรื่องราว ความหมาย วัตถุดิบ และวิธีทำ Pinnekjøtt แบบดั้งเดิม เพื่อให้คุณได้สัมผัสรสชาติของคริสต์มาสแบบนอร์เวย์แท้ๆ
ประวัติและความเป็นมาของ Pinnekjøtt
ต้นกำเนิดของ Pinnekjøtt ย้อนกลับไปหลายร้อยปีในพื้นที่ชนบทของนอร์เวย์ โดยเฉพาะในภูมิภาคทางตะวันตกและตอนเหนือ ที่ซึ่งการเลี้ยงแกะเป็นอาชีพหลักของผู้คนในพื้นที่ ด้วยสภาพอากาศหนาวเย็นและฤดูหนาวที่ยาวนาน ชาวนอร์เวย์จำเป็นต้องหาวิธีเก็บรักษาอาหารไว้ให้ได้นานที่สุด หนึ่งในวิธีนั้นคือการหมักด้วยเกลือและรมควัน ซึ่งช่วยถนอมเนื้อให้เก็บไว้ได้ตลอดฤดูหนาว
คำว่า “Pinnekjøtt” มาจากคำว่า pinne หมายถึง “ไม้แท่ง” และ kjøtt หมายถึง “เนื้อ” ชื่อนี้มีที่มาจากวิธีการนึ่งเนื้อที่วางบนไม้แท่ง (โดยมากเป็นไม้เบิร์ช) เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อสัมผัสกับน้ำโดยตรง การใช้ไม้ในการนึ่งนี้เองที่กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของอาหารจานนี้
ในสมัยก่อน Pinnekjøtt มักจะถูกเตรียมไว้ล่วงหน้าหลายสัปดาห์ก่อนถึงวันคริสต์มาส หลังจากหมักเกลือและรมควันเสร็จแล้ว จะนำไปตากไว้ในที่เย็นและแห้ง เพื่อให้รสชาติพัฒนาอย่างลึกซึ้ง เมื่อถึงวันเฉลิมฉลอง ครอบครัวจะนำเนื้อมานึ่งและเสิร์ฟพร้อมกับมันฝรั่งบดและผักกาดหัวตุ๋น
วัตถุดิบสำหรับทำ Pinnekjøtt
ส่วนผสมหลัก:
- ซี่โครงแกะ (แบบติดเนื้อ) ประมาณ 2 กิโลกรัม
- เกลือหยาบ 300–400 กรัม
- น้ำเปล่าสำหรับล้างและนึ่ง
- ไม้เบิร์ชหรือไม้เรียว (ใช้วางรองตอนนึ่ง)
ส่วนผสมเสิร์ฟเคียง (ตามแบบนอร์เวย์ดั้งเดิม):
- มันฝรั่งต้ม
- ผักกาดหัวตุ๋น (Rutabaga mash หรือ “Kålrabistappe”)
- เนยละลาย
ขั้นตอนการทำ Pinnekjøtt แบบดั้งเดิม
1. การเตรียมซี่โครงแกะ
เริ่มต้นด้วยการล้างซี่โครงแกะให้สะอาดและซับให้แห้งสนิท จากนั้นนำเกลือหยาบมาคลุกให้ทั่วทั้งสองด้านของเนื้อ วางในภาชนะแล้วเก็บไว้ในตู้เย็น (หรือห้องเย็น) ประมาณ 3 วัน เพื่อให้เกลือซึมเข้าไปในเนื้อและช่วยถนอมอาหาร
2. การล้างเกลือออกและการทำให้แห้ง
หลังจากครบเวลา ให้ล้างซี่โครงด้วยน้ำเย็นหลายครั้งเพื่อเอาเกลือส่วนเกินออก แล้วนำไปผึ่งในที่เย็นและมีอากาศถ่ายเทดีอีกประมาณ 1–2 วัน
3. การรมควัน (ถ้ามี)
ขั้นตอนนี้เป็นทางเลือก แต่ถือเป็นหัวใจของรสชาติแบบดั้งเดิม การรมควันใช้ไม้เบิร์ชหรือไม้แห้งชนิดอื่นๆ ที่ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ รมควันเนื้อเป็นเวลา 6–8 ชั่วโมง จนได้กลิ่นหอมและสีสวย หลังจากนั้นผึ่งให้แห้งอีกครั้ง
4. การแช่น้ำก่อนปรุง
ก่อนจะนำมาปรุงในวันคริสต์มาส ต้องแช่เนื้อในน้ำเย็นประมาณ 24–30 ชั่วโมง เพื่อขจัดความเค็มส่วนเกินและทำให้เนื้อกลับมานุ่มอีกครั้ง ควรเปลี่ยนน้ำอย่างน้อย 2–3 ครั้งระหว่างนี้
5. การนึ่ง Pinnekjøtt
เตรียมหม้อนึ่งโดยวางไม้เบิร์ชไว้ที่ก้นหม้อ เติมน้ำจนถึงระดับครึ่งไม้ แล้ววางเนื้อซี่โครงแกะเรียงซ้อนกันด้านบน ปิดฝาและนึ่งด้วยไฟอ่อนนานประมาณ 2.5–3 ชั่วโมง หรือจนกว่าเนื้อจะนุ่มและหลุดจากกระดูกได้ง่าย
การเสิร์ฟและการตกแต่ง
เมื่อเนื้อสุกดีแล้ว สามารถนำไปย่างบนเตาอบอีกเล็กน้อยเพื่อให้ผิวกรอบก่อนเสิร์ฟก็ได้ จัดใส่จานพร้อมมันฝรั่งต้มและผักกาดหัวบด ราดด้วยเนยละลายเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความหอมและรสชาติ
บางพื้นที่ในนอร์เวย์นิยมเสิร์ฟพร้อม “Vossakorv” (ไส้กรอกรมควันแบบนอร์เวย์) เพื่อเพิ่มความเข้มข้นให้กับมื้อคริสต์มาส ส่วนในภูมิภาคทางเหนือมักเสิร์ฟกับเบียร์ดำหรือ aquavit ซึ่งเป็นเหล้าดั้งเดิมของชาวนอร์เวย์
เคล็ดลับในการทำ Pinnekjøtt ให้อร่อย
- ใช้ซี่โครงแกะที่มีไขมันพอประมาณ ไขมันจะช่วยให้เนื้อนุ่มและชุ่มฉ่ำหลังนึ่ง
- การรมควันควรใช้ไฟอ่อนและรมควันอย่างช้าๆ เพื่อให้กลิ่นซึมเข้าถึงเนื้อโดยไม่ไหม้
- การนึ่งต้องใช้เวลาและความอดทน ห้ามเร่งไฟ เพราะอาจทำให้เนื้อแข็ง
- หากต้องการรสชาติอ่อนกว่าแบบดั้งเดิม ให้ลดเวลาในการหมักเกลือหรือแช่น้ำก่อนนึ่งให้นานขึ้น
สัญลักษณ์แห่งเทศกาลคริสต์มาสนอร์เวย์
Pinnekjøtt ไม่ใช่เพียงอาหาร แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและความทรงจำในครอบครัวนอร์เวย์ ทุกคริสต์มาส บ้านต่างๆ จะอบอวลไปด้วยกลิ่นของซี่โครงแกะรมควัน เสียงหัวเราะ และความอบอุ่นของคนในครอบครัวที่มาร่วมโต๊ะเดียวกัน
สำหรับหลายคน Pinnekjøtt คือรสชาติของ “บ้านเกิด” และเป็นเครื่องเตือนใจถึงรากเหง้าทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน การได้กินเมนูนี้ในวันคริสต์มาสจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของอาหาร แต่คือการรักษาประเพณีที่เต็มไปด้วยความหมาย
บทสรุป
Pinnekjøtt เป็นเมนูที่สะท้อนความชาญฉลาดของคนโบราณในการถนอมอาหารและยังคงสืบทอดมาเป็นร้อยปี ด้วยรสเค็มกลมกล่อม กลิ่นหอมของควันไม้ และสัมผัสนุ่มละมุนของเนื้อแกะ ทำให้มันกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งเทศกาลคริสต์มาสในนอร์เวย์ที่ไม่มีวันเลือนหาย
ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใด หากอยากสัมผัสบรรยากาศคริสต์มาสแบบสแกนดิเนเวีย การทำ Pinnekjøtt ด้วยตัวเองอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการนำความอบอุ่นแบบนอร์เวย์เข้ามาไว้ในบ้านของคุณเอง.
