Close Menu
  • Home
  • ข่าวสารล่าสุด
  • ความบันเทิง
  • สุขภาพ
Facebook X (Twitter) Instagram
bikramyogaphuket
  • Home
  • ข่าวสารล่าสุด
  • ความบันเทิง
  • สุขภาพ
bikramyogaphuket
สุขภาพ

การปฐมพยาบาลเ มื่อ มือลูกน้อยถูกสะเก็ดบาด

Timothy PetersonBy Timothy PetersonAugust 29, 2025No Comments2 Mins Read

การมีเสี้ยนติดอยู่ในผิวหนังเป็นเหตุการณ์เล็ก ๆ มือ ที่เกิดขึ้นได้บ่อยในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในเด็กที่ชอบเล่นของเล่นไม้ วิ่งเล่นกลางแจ้ง หรือช่วยผู้ใหญ่ทำงานบ้าน เช่น จับไม้กวาด ด้ามไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้ แม้เสี้ยนจะเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี อาจก่อให้เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้ การเรียนรู้การปฐมพยาบาลเมื่อบุตรหลานมีเสี้ยนจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ปกครองควรเข้าใจ

เสี้ยนคืออะไร

เสี้ยนคือเศษวัสดุเล็ก ๆ ที่แทรกหรือติดเข้าไปในชั้นผิวหนัง มักเป็นเสี้ยนไม้ แต่ก็อาจเป็นเศษแก้ว โลหะ หรือพลาสติกที่มีขนาดเล็กและแหลม เสี้ยนสามารถทำให้เกิดความเจ็บปวด แสบร้อน และหากปล่อยทิ้งไว้นานอาจทำให้เกิดบวม แดง หรือการติดเชื้อ

อาการเมื่อลูกน้อยมีเสี้ยน

เมื่อเด็กมีเสี้ยนติดอยู่ในผิวหนัง อาจพบอาการดังต่อไปนี้

  1. ร้องไห้หรือแสดงความเจ็บปวดทันที
  2. พยายามหยิบหรือเกาผิวหนังบริเวณนั้น
  3. ผิวหนังมีรอยแดงหรือมีสิ่งแปลกปลอมให้เห็น
  4. อาจมีเลือดออกเล็กน้อยรอบ ๆ บริเวณที่เสี้ยนเข้าไป

การสังเกตอาการและตรวจสอบบริเวณที่เด็กเจ็บจึงเป็นขั้นตอนแรกที่ผู้ปกครองควรทำ

ขั้นตอนการปฐมพยาบาลเมื่อลูกน้อยมีเสี้ยน

หากบุตรหลานของคุณมีเสี้ยน สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้

1. เตรียมอุปกรณ์

ก่อนเริ่มต้นควรเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม เช่น

  • แหนบที่ปลายแหลมและสะอาด
  • เข็มที่ผ่านการฆ่าเชื้อ
  • สำลีหรือผ้าก๊อซสะอาด
  • น้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์หรือน้ำยาล้างแผล
  • สบู่และน้ำสะอาด

การมีอุปกรณ์ครบถ้วนจะช่วยให้การนำเสี้ยนออกปลอดภัยมากขึ้น

2. ทำความสะอาดมือและผิวหนัง

ล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาด จากนั้นทำความสะอาดผิวหนังของเด็กบริเวณที่มีเสี้ยนติดอยู่ด้วยสบู่หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการนำเชื้อโรคเข้าสู่บาดแผล

3. ตรวจสอบตำแหน่งเสี้ยน

ส่องดูตำแหน่งเสี้ยนด้วยแสงสว่างเพียงพอ หากจำเป็นใช้แว่นขยายช่วยมอง เพื่อให้แน่ใจว่ารู้ตำแหน่งที่เสี้ยนเข้าไปอย่างชัดเจน

4. การนำเสี้ยนออก

  • หากเสี้ยนโผล่ออกมาจากผิวหนัง สามารถใช้แหนบที่สะอาดคีบออกอย่างระมัดระวัง
  • หากเสี้ยนฝังลึก ให้ใช้เข็มที่ผ่านการฆ่าเชื้อ เจาะเบา ๆ เพื่อเปิดผิวหนังเล็กน้อย แล้วใช้แหนบดึงเสี้ยนออกมา
  • ควรทำอย่างใจเย็น ไม่รีบร้อน เพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้เสี้ยนหักคาผิวหนัง

5. ทำความสะอาดแผลหลังนำเสี้ยนออก

หลังจากนำเสี้ยนออกแล้ว ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือ จากนั้นใช้ผ้าก๊อซซับให้แห้ง และทายาฆ่าเชื้อหรือน้ำยาล้างแผลอ่อน ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

6. ปิดแผลหากจำเป็น

หากแผลมีเลือดออกหรืออยู่ในตำแหน่งที่เสี่ยงต่อการสัมผัสสิ่งสกปรก สามารถปิดด้วยพลาสเตอร์ปิดแผลหรือผ้าก๊อซ เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกเข้าสู่บาดแผล

7. เฝ้าสังเกตอาการหลังการปฐมพยาบาล

หลังจากนำเสี้ยนออกแล้ว ผู้ปกครองควรเฝ้าสังเกตบุตรหลาน หากพบอาการบวม แดง มีหนอง หรือมีไข้ ควรรีบพาไปพบแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ

ข้อควรระวังในการปฐมพยาบาล

  1. อย่าพยายามกดหรือบีบเสี้ยนออก เพราะอาจทำให้เสี้ยนหักและฝังลึกกว่าเดิม
  2. อย่าใช้ของมีคมหรือเข็มที่ไม่ได้ฆ่าเชื้อ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ
  3. อย่าปล่อยเสี้ยนไว้นาน เพราะอาจนำไปสู่การอักเสบและเป็นหนอง

เมื่อใดควรพาไปพบแพทย์

มีบางกรณีที่ไม่ควรพยายามนำเสี้ยนออกเอง แต่ควรรีบไปพบแพทย์ ได้แก่

  • เสี้ยนมีขนาดใหญ่หรือฝังลึกในผิวหนัง
  • เสี้ยนอยู่ในตำแหน่งอันตราย เช่น รอบดวงตา ใต้เล็บ หรือบริเวณบอบบาง
  • หลังจากนำเสี้ยนออกแล้วเกิดอาการอักเสบ บวม แดง หรือมีหนอง
  • เด็กมีประวัติภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น เป็นโรคเบาหวาน หรือมีโรคประจำตัวที่ทำให้การหายของแผลช้าลง

การป้องกันไม่ให้ลูกน้อยมีเสี้ยน

แม้การมีเสี้ยนจะไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่การป้องกันย่อมดีกว่าเสมอ ผู้ปกครองสามารถลดความเสี่ยงได้ดังนี้

  • หมั่นตรวจสอบของเล่นไม้หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้ในบ้าน หากมีผิวขรุขระควรขัดหรือลบคม
  • ให้เด็กสวมรองเท้าและถุงเท้าเมื่อเล่นกลางแจ้ง เพื่อลดโอกาสที่เสี้ยนจากไม้หรือสิ่งของอื่น ๆ จะทิ่มเท้า
  • สอนเด็กไม่ให้ใช้มือเกาหรือจับสิ่งแปลกปลอมที่ติดอยู่ในผิวหนังเอง
  • คอยดูแลเมื่อเด็กเล่นกับอุปกรณ์ที่อาจทำให้เกิดเสี้ยน เช่น ไม้กวาดหรือเครื่องมือไม้

ความเข้าใจทางการแพทย์เกี่ยวกับเสี้ยน

ในมุมมองทางการแพทย์ เสี้ยนถือเป็น สิ่งแปลกปลอมในผิวหนัง (foreign body in skin) ร่างกายมักตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมด้วยการอักเสบ เช่น บวม แดง และเจ็บ เพื่อพยายามกำจัดสิ่งนั้นออกเอง บางครั้งร่างกายสามารถ “ดัน” เสี้ยนออกมาได้ตามธรรมชาติ แต่ในหลายกรณีเสี้ยนยังคงติดคาอยู่และก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง

หากเสี้ยนทำจากวัสดุอินทรีย์ เช่น ไม้ หรือหนามพืช จะมีโอกาสติดเชื้อง่ายกว่าเสี้ยนที่ทำจากโลหะหรือแก้ว เนื่องจากพื้นผิวมีรูพรุนและสามารถกักเก็บเชื้อโรคไว้ได้


เทคนิคเสริมสำหรับการนำเสี้ยนออก

นอกจากการใช้แหนบหรือเข็มแล้ว ยังมีวิธีเสริมที่ปลอดภัยซึ่งผู้ปกครองสามารถใช้ได้ในกรณีที่เสี้ยนมีขนาดเล็กหรือไม่ลึกมาก

  1. การแช่น้ำอุ่น
    ให้เด็กแช่มือหรือเท้าในน้ำอุ่นผสมเกลือประมาณ 10–15 นาที น้ำอุ่นจะช่วยให้ผิวหนังนิ่มลง ทำให้เสี้ยนโผล่ออกมาชัดขึ้นและง่ายต่อการดึงออก
  2. การใช้เทปกาว
    หากเสี้ยนมีขนาดเล็กและอยู่ใกล้ผิว สามารถใช้เทปกาวสะอาดกดลงบนผิวหนังแล้วดึงออกเบา ๆ วิธีนี้เหมาะกับเสี้ยนเล็กที่ยังไม่ฝังลึก
  3. การใช้เข็มขัดนิรภัยทางการแพทย์ (Sterile needle dressing)
    บางครั้งแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์จะใช้เครื่องมือเฉพาะที่ปลอดเชื้อ เพื่อเลี่ยงความเสี่ยงจากการติดเชื้อ

ความสำคัญของวัคซีนบาดทะยัก

อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ปกครองควรคำนึงถึงเมื่อบุตรหลานมีเสี้ยนหรือแผลเปิด คือ สถานะการฉีดวัคซีนบาดทะยัก หากเด็กไม่ได้รับวัคซีนครบตามกำหนดหรือเว้นมานานเกินไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการฉีดกระตุ้น เพราะแผลที่เกิดจากไม้หรือสิ่งแปลกปลอมในดินสามารถนำเชื้อบาดทะยักเข้าสู่ร่างกายได้


ความเข้าใจทางจิตใจและอารมณ์ของเด็ก

นอกจากการปฐมพยาบาลทางกายแล้ว ผู้ปกครองควรใส่ใจ อารมณ์และความกลัวของเด็ก ด้วย เด็กมักหวาดกลัวเมื่อเห็นเข็ม แหนบ หรือมีการแตะต้องบาดแผล

  • ควรพูดคุยกับลูกอย่างอ่อนโยน อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ว่าจะทำอะไร
  • อาจให้ลูกนั่งตักผู้ปกครองเพื่อสร้างความมั่นใจ
  • หลังจากนำเสี้ยนออกแล้ว ควรชมเชยหรือให้กำลังใจ เพื่อให้เด็กเรียนรู้ว่าการดูแลบาดแผลไม่ใช่เรื่องน่ากลัว

กรณีศึกษาเล็ก ๆ

  1. เด็กที่เล่นไม้กวาดแล้วโดนเสี้ยนมือ
    ผู้ปกครองใช้แหนบคีบออกหลังจากทำความสะอาดมือและผิวหนัง ผลคือเสี้ยนหลุดออกได้ง่าย ไม่มีการติดเชื้อ
  2. เด็กวิ่งเล่นกลางสนามแล้วโดนหนามต้นไม้ตำเท้า
    เสี้ยนฝังลึกจนไม่สามารถนำออกเองได้ ผู้ปกครองพาไปพบแพทย์ซึ่งใช้เครื่องมือพิเศษนำออก และให้ยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการอักเสบ

การดูแลต่อเนื่องหลังแผลหาย

แม้ว่าแผลจากเสี้ยนจะเล็ก แต่ผู้ปกครองควรสอนเด็กเกี่ยวกับการดูแลตัวเอง เช่น

  • ไม่ควรเล่นในพื้นที่ที่มีไม้แตกหรือพื้นผิวขรุขระโดยไม่สวมรองเท้า
  • หมั่นล้างมือบ่อย ๆ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • หากเกิดบาดแผล ควรบอกผู้ปกครองทันที ไม่ควรพยายามดึงเสี้ยนออกเอง

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหากไม่เอาเสี้ยนออก

แม้เสี้ยนจะเป็นเพียงสิ่งเล็ก ๆ แต่หากปล่อยทิ้งไว้นานอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนดังนี้

  1. การอักเสบเฉพาะที่
    บริเวณผิวหนังรอบ ๆ เสี้ยนอาจบวม แดง และเจ็บ หากเด็กเผลอเกาหรือสัมผัสบ่อย อาจยิ่งทำให้การอักเสบรุนแรงขึ้น
  2. การติดเชื้อแบคทีเรีย
    หากเสี้ยนยังคงอยู่ใต้ผิวหนัง อาจกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เกิดหนอง มีน้ำเหลือง และทำให้เด็กมีไข้ร่วมด้วย
  3. ฝีหรือการติดเชื้อเรื้อรัง
    ในบางกรณี เสี้ยนที่ไม่ได้ถูกเอาออกอาจถูกห่อหุ้มด้วยเนื้อเยื่อ และก่อตัวเป็นฝีหรือก้อนแข็งใต้ผิวหนัง ต้องใช้การผ่าตัดเล็กเพื่อเอาออก
  4. การบาดเจ็บลึกกว่าเดิม
    หากเสี้ยนอยู่ใกล้เส้นเลือดหรือเส้นประสาท อาจก่อให้เกิดอาการชา หรือบาดเจ็บลึกที่ส่งผลต่อการทำงานของร่างกาย

คำแนะนำสำหรับผู้ปกครองมือใหม่

ผู้ปกครองที่ยังไม่คุ้นเคยกับการปฐมพยาบาล อาจรู้สึกกังวลเมื่อลูกน้อยมีเสี้ยนติดผิวหนัง ข้อแนะนำคือ

  • อย่าตกใจ: เสี้ยนส่วนใหญ่สามารถเอาออกได้ง่าย หากทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง
  • ใช้แสงสว่างเพียงพอ: ควรนั่งในที่ที่มีแสงชัดเจน หรือใช้ไฟฉายส่องเพื่อมองเห็นเสี้ยนได้ชัด
  • รักษาความสะอาดเสมอ: ทั้งอุปกรณ์และมือผู้ปกครองควรสะอาด เพื่อป้องกันการนำเชื้อเข้าสู่บาดแผล
  • ใจเย็นและอดทน: เด็กมักขยับหรือร้องไห้ ควรอธิบายทีละขั้นตอนและทำให้เด็กรู้สึกมั่นใจ

การสร้างนิสัยที่ดีเพื่อลดการเกิดเสี้ยน

  1. การเลือกของเล่นที่ปลอดภัย
    เลือกของเล่นที่ผ่านมาตรฐาน ไม่มีขอบแหลมหรือผิวไม้แตก
  2. การตรวจสอบเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ในบ้าน
    หากพบไม้ที่มีเสี้ยน ควรขัดให้เรียบหรือเคลือบเงาเพื่อลดโอกาสการเกิดเสี้ยน
  3. การสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน
    เด็กที่ช่วยงานบ้านหรือเล่นกลางแจ้ง ควรสวมรองเท้าและถุงมือป้องกัน
  4. การให้ความรู้แก่เด็ก
    สอนลูกว่า หากรู้สึกเจ็บหรือมีอะไรตำผิวหนัง ควรรีบบอกผู้ปกครอง ไม่ควรพยายามแกะเอง

บทบาทของโรงเรียนและครู

เนื่องจากเด็กใช้เวลาอยู่ที่โรงเรียนมาก การมีมาตรการป้องกันและการสังเกตจากครูก็มีความสำคัญ

  • โรงเรียนควรตรวจสอบสนามเด็กเล่นและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ปลอดภัย
  • ครูควรสังเกตเด็ก หากเห็นมีบาดแผลหรือร้องไห้จากการถูกเสี้ยน ควรแจ้งผู้ปกครองทันที
  • โรงเรียนสามารถให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการดูแลบาดแผลเล็กน้อยแก่เด็ก

สรุปย้ำท้าย

เสี้ยนอาจเป็นเหตุการณ์เล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน แต่สำหรับเด็กแล้วอาจทำให้เจ็บปวด ร้องไห้ และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ หากผู้ปกครองมีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง จะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างปลอดภัย การเอาเสี้ยนออกไม่เพียงเป็นการดูแลบาดแผล แต่ยังเป็นการสอนเด็กถึงการรักษาความสะอาด ความปลอดภัย และการขอความช่วยเหลือเมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่สามารถจัดการเองได้

ด้วยความเข้าใจทั้งด้านร่างกายและจิตใจ การเตรียมพร้อมของผู้ปกครอง และการป้องกันในชีวิตประจำวัน จะช่วยให้ลูกน้อยปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ

การ นั่ง นาน ๆ เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่? การปฐมพยาบาลเ มื่อ มือลูกน้อยถูกสะเก็ดบาด ค้นพบมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย: วัด การเต้นรำ และอาหาร ระวัง! 6 พฤติกรรมประจำวันทำร้าย ผิว โดยไม่รู้ตัว วิธีฉลาดในการพักผ่อนโดยไม่ต้องเสีย เงิน มาก
Timothy Peterson

Related Posts

หลับสบายแม้มีอาการคัด จมูก เคล็ดลับและวิธีแก้ไข

September 17, 2025

ความผิดพลาดในการใช้ยา? นี่คือ วิธี รับมือ

September 13, 2025

สาเหตุของอาการปวดหลังจากการ นอน หลับมากเกินไป

September 12, 2025

Comments are closed.

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.